× This item is no longer available for purchase.
สิ้นสุดแล้ว

พระปิดตาเนื้อผงใบลาน หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี รุ่น ศาลาราชสังวราภิมณฑ์

Lot 653281

รายการรูปภาพ
ตัวเลือกการชำระเงิน
ผู้ขายยอมรับ PayPal

คำแนะนำการชำระเงิน
บัญชี: ธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี: สตางค์โบราณ ร.ศ.127 เลขที่บัญชี: 011-7-24498-8 กรุณาชำระเงินภายใน 7 วัน
ตัวเลือกการจัดส่ง
kerry ฿50.00 THB (ค่าส่งเพิ่ม฿10.00 THBสำหรับชิ้นต่อไป)
รายละเอียด
  • Item # 731135
  • Qty Available 1
คำอธิบาย

พระปิดตาเนื้อผงใบลาน  หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี รุ่น ศาลาราชสังวราภิมณฑ์ เพชรสยาม 112 ปี  
ผสมผงเก่าพระเครื่อง 13 พิมพ์แรกและผงเก่าพระปิดตาปลดหนี้อันลือลั่น จัดสร้างและพุทธาภิเศก ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2542
ณ.พระอุโบสถ วัดประดู่ฉิมพลี มีขนาดสูง 3.7 x 2.5 ซ.ม. พร้อมกล่องเดิมจากวัดครับ

พระราชสังวราภิมณฑ์ หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ พระผู้ทรงบารมีธรรม ด้วยปฏิปทาและจริยาวัตรอันงดงาม
ท่านมีคนเคารพนับถือมากทั้งผู้ที่ถือเพศบรรพชิตและคฤหัสถ์ทั่วประเทศตั้งแต่พระประมุขของประเทศจนถึงชนชั้นสามัญชนคนธรรมดาทั่วไป
ตลอดชีวิตของท่านได้ถือปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัดไม่มีด่างพร้อยใดเลย
ด้วยปฏิปทาและจริยาวัตรอันงดงามของหลวงปู่แทบจะไม่มีข้อสงสัยใดๆเลยว่าหลวงปู่ตั้งอยู่ในภูมิธรรมชั้นใด
ทางด้านเวทมนต์และคาถาอาคมนั้นหลวงปู่ท่านเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมและจิตญานสูง มีคำบอกเล่าจากศิษย์ใกล้ชิดว่าเมื่อหลวงปู่ร่วมพิธีพุทธาภิเศกร่วมกับพระเกจิอาจารย์ท่านอื่น
เพียงแค่จับสายสิญจน์หลวงปู่ท่านก็จะรู้ได้ทันทีว่าพระเกจิท่านใดมีพลังจิตสูงเพียงใด หลังพิธีพุทธาเศกหลวงปู่ก็จะตามไปศึกษาและแลกเปลี่ยนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากพระเกจิท่านนั้น
พระเครื่องของท่านนั้นเป็นที่นิยมเสาะหากันมากในหมู่ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไป เนื่องด้วยปฏิปทาและจริยาวัตรอันงดงาม ของหลวงปู่แล้ว
อีกอย่างหนึ่งคือพุทธคุณที่เห็นเด่นชัดเห็นผลเร็วทันตา โดยเฉพาะทางด้านโชคลาภ ค้าขาย เมตตามหานิยม

พระราชสังวราภิมณฑ์ ( โต๊ะ อินทสุวณณเถร ) วัดประดู่ฉิมพลี หรือที่เรียกขานกันทั่วไปว่า “หลวงปู่โต๊ะ” ท่านเป็นชาวสมุทรสงครามโดยกำเนิด เกิดเมื่อ
วันอาทิตย์ เดือน ๕ ขึ้น ๔ ค่ำ ปีกุนยังเป็นอัฐศกตรงกับวันที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๒๙ ณ.บ้านคลองบางน้อย ตำบลบางพรมหม อำเภอคณฑี
เป็นบุตร นายพลอย กับ นางทับ รัตนคอน มีน้องร่วมบิดามารดาเดียวกันคนหนึ่งชื่อ เฉื่อย เมื่อเยาว์วัยอยู่กับบิดามารดาและได้เล่าเรียนวิชาหนังสือไทยที่
วัดเกาะแก้ว ปากคลองบางน้อย ใกล้บ้านเกิด ครั้นมารดาถึงแก่กรรม พระภิกษุแก้ว ผู้เป็นญาติบวชอยู่กับพระอุดรคณารักษ์ วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ
พาท่านมาฝากให้อยู่กับอธิการสุข วัดประดู่ฉิมพลี เมื่ออายุได้ ๑๓ ปี ส่วนนายเฉื่อยน้องชายนั้นมิได้ตามมาด้วย

ท่านมาเรียนหนังสือต่อที่วัดประดู่ฉิมพลีอีกประมาณ ๔ ปี พออายุได้ประมาณ ๑๗ ปี ก็บรรพชา เป็นสามเณรที่วัดนี้ โดยมีพระอธิการสุขเป็นอุปัชฌาย์
"บรรพชาได้วันเดียวพระอธิการสุข ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์และผู้อุปการะของท่านก็ได้มรณะภาพ นายคล้าย นางพันธ์ ซึ่งเป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ของพระอธิการสุข
"
และมีบ้านอยู่ใกล้วัดประดู่ฉิมพลีจึงได้อุปาการะท่านต่อมา

เมื่อบรรพชาแล้ว ท่านก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัยในสำนักวัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งมีพระอธิการคำเป็นเจ้าอาวาสปกครองสืบมา พร้อมกับเรียนกรรมฐานกับ
พระอาจารย์พรมหมอีกทางหนึ่งด้วย จนกระทั่งอายุครบ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา วัดประดู่ฉิมพลี เมื่อวันอังคาร เดือน ๘
อุตตราษาฒขึ้น ๗ ค่ำ ปีมะแม นพศก ตรงกับ วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๕๐ เวลา ๑๕.๓๐ นาฬิกา พระครูสมณธรรมสมาทาน (แสง)
วัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) เป็นอุปัชฌาย์ พระครูอักขรานุสิต (ผ่อง) วัดนวลนรดิศ เป็นกรรมวาจาจารย์ พระครูธรรมวิรัต (เชย) วัดกำแพง เป็นอนุสาวนาจารย์
มีฉายาในพระพุทธศาสนาว่า “อินทสุวณโณ” ได้เล่าเรียนปฏิบัติทั้งทางคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ ทั้งสองด้าน ด้วยความวิริยะอุตสาหะ จนสอบนักธรรมชั้นตรี
"ได้เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๕ และปีนั้นเองเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีว่างลงอีก เพราะพระอธิการคำมาณภาพทางคณะสงฆ์ จึงแต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าอาวาส
"
เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้เลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่พระราชสังวราภิมณฑ์

พระราชสังวราภิมณฑ์ ท่านมีอัธยาศัยงดงาม สุภาพอ่อนโยน มากด้วยเมตตากรุณา ยินดีสงเคราะห์อนุเคราะห์แก่ผู้อื่นสัตว์อื่นโดยเสมอแหน้า
ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นผู้ซื่อตรง ถ่อมตน ยึดมั่นในระเบียบประเพณีและความกตัญญูกตเวที ทั้งมีความภักดีในองค์พระมาหากษัตริย์
และพระราชวงศ์อย่างแน่นแฟ้น ผู้ที่มีโอกาสเข้าใกล้ชิดคุ้นเคยกับท่าน จะยืนยันในความที่กล่าวนี้ได้ทุกคน อีกประการหนึ่ง ท่านเป็นคนหมั่นขยัน
และแน่วแน่ ตั้งใจทำสิ่งใดแล้วเป็นต้องทำจนสำเร็จ กิจที่ท่านปฏิบัติเป็นนิจในแต่ละวันจนตลอดชีพของท่าน คือ
๔.๐๐ น. ตื่นขึ้นเจริญสมณธรรม
๘.๐๐ น. นำภิกษุสามเณรทำวัตรสวดมนต์
๑๖.๐๐ น. ออกรับแขกที่มาถวายสักการะบ้าง ที่มาขอบารมีธรรมบ้าง ที่มาสนทนาธรรมบ้าง
๑๘.๐๐ น. นั่งบำเพ็ญสมณธรรมไปจนถึง ๒๐.๐๐ น. แล้วนำภิกษุสามเณรทำวัตรค่ำ

ในระยะหลังท่านนั่งบำเพ็ญสมณธรรมนานเข้าจนถึงเวลา ๒๑.๐๐ หรือ ๒๒.๐๐ น. โดยไม่ย่อท้อต่อทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นเนื่องแต่ความ
เสื่อมของสังขาร ในวันธรรมสวนะท่านจะแสดงธรรมแก่ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกาเป็นประจำ และทุกวันพฤหัสบดีจะมีภิกษุ สามเณร จากต่างวัด
รวมทั้งผู้สนใจในการปฏิบัติธรรม มาขอฝึกปฏิบัติกรรมฐานเป็นจำนวนมาก นับว่าท่านได้เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวอย่างยิ่งของคนทั่วไป และบุคคลใด
ที่ได้บารมีธรรมของท่านแล้ว มักประกอบธุรกิจการงานได้รับผลสำเร็จสมควรปรารถนา

ครั้งหนึ่งขณะที่หลวงปู่นั่งเจริญกรรมฐานอยู่ในโบสถ์ พลันก็เห็นเซียน 8 องค์เข้ามาพูดกับท่านว่า
"พระแม่กวนอิมมารับท่านเป็นสาวกและให้ท่านปฏิบัติแบบมหายาน คือไม่ฉันเนื้อวัว เนื้อควาย และให้ฉันเจทุกเทศกาลกินเจ"
หลวงปู่ก็ไม่ยอม เถียงไปว่า......... "พระแม่เป็นคนจีน หลวงปู่เป็นคนไทยและนับถือพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ไม่ตกลงด้วย"
นับแต่นั้นมาเซียน 8 องค์ก็มาเฝ้าอ้อนวอนให้หลวงปู่เปลี่ยนใจ จนกระทั่งวันหนึ่งเซียนทั้ง 8 องค์ก็มาหาอีกและบอกว่า "วันนี้พระแม่กวนอิมเสด็จ
มาด้วยพระองค์เอง พักรออยู่ข้างนอก"

หลวงปู่โต๊ะไม่สนใจได้แต่หลับตาเสีย เซียนองค์หนึ่งจึงไปเชิญเสด็จพระแม่กวนอิมเข้ามาในโบสถ์ และบอกให้หลวงปู่โต๊ะ ลืมตาขึ้น ท่านลืมตา
เห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก พระแม่เจ้าให้หลวงปู่โต๊ะเข้าเป็นสาวกทางพุทธศาสนามหายาน และประทานเสื้อกางเกง
ชุดพระจีน ให้ใส่แทน หลวงปู่เผลอรับเสื้อกางเกงมาสวมใส่ พอกางเกงสวมมาถึงเข่า ก็รู้สึกตัวได้สติ รีบดึงกางเกงออกทิ้งไป

พระแม่กวนอิมกลับบอกว่า "ท่านเป็นสาวกของพระแม่แล้ว ต่อไปนี้ท่านจะต้องฉันเจทุกปี ตามเทศกาลเจของชาวจีน" แล้วพระแม่กวนอิมและเซียนทั้ง
8 องค์ ก็หายวับไปกับตา

พอถึงเทศกาลเจครั้งแรก หลวงปู่ไม่ยอมฉันเจ หลวงปู่ก็อาพาธหนัก พอหมดเทศกาลเจก็หาย ในปีต่อ ๆ มา ก็เป็นเช่นนี้อีก หลวงปู่ทดสอบอยู่หลายปี
จนต้องหันมาฉันเจในเทศกาลเจ อาการอาพาธต่าง ๆ ก็หายสิ้น ท่านจึงฉันเจตามเทศกาลแต่นั้นมา

พระราชสังวราภิมณฑ์อยู่ในสมณเพศมาตั้งแต่อายุได้ ๑๗ ปี ท่านได้เล่าเรียนพระธรรมวินัยมีความรู้จนแตกฉานลึกซึ้ง และถือวิปัสสนา
ธุระเป็นหลักปฏิบัติ ในชีวิตอันยาวนานถึง ๙๔ ปี ของท่าน เป็นรัตตัญญูผู้รู้กาลนาน เป็นครูของสาธุชนทุกหมู่เหล่า เป็นที่เคารพบูชา
ศรัทธาเลื่อมใสของบุคคลทุกเพศทุกวัย ทุกชาติชั้น นับแต่สามัญบุคคลจนถึงองค์พระประมุขของชาติ แม้อายุพรรษาจะมากเพียงใด ท่านก็
มิได้ขัดศรัทธาของผู้ที่อาราธนาไปการบุญกุศลต่าง ๆ มีการนั่งเจริญสมาธิภาวนาอำนวยสิริมงคล เป็นต้น จึงในระยะหลัง ๆ นี้ทำให้สังขาร
ร่างกายท่านต้องลำบากตราตรำมากเกินไป และเกิดอาพาธขึ้นบ่อย ๆ จนสิ้นลมด้วยอาการสงบดุจนอนหลับไป ณ กุฏิสายหยุด นับอายุได้
๙๓ ปี ๑๐ เดือน กับ ๒๒ วัน

พระคาถาบูชาพระปิดตา หลวงปู่โต๊ะ ดังนี้
ตั้ง นะโม ๓ จบ ก่อน แล้วว่า
คะวัมปะติ จะ มหาเถโร ลาภะ ลาโภ นิรันตะรัง คะ วัมปะติ จะ มหาเถรัง ลาภะ สุขัง ภะวันตุเม

วัตถุมงคลของท่าน พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย เป็นเยี่ยม

⛔ รับประกัน 💯
ติดต่อ - ไลน์ไอดี : VVCOIN , ☎ โทร.088-556-9499
บัญชีธนาคาร : ธนาคารกรุงเทพ
ชื่อบัญชี : สตางค์โบราณ ร.ศ.127
เลขที่บัญชี : 011-7-24498-8

SWIFT CODE:    BKKBTHBK
BANK:  BANGKOK BANK PUBLIC COMPANY LIMITED
BRANCH: Poonsap Market 1645
BENEFICIARY’S ACCOUNT NO. : 0117244988
ACCOUNT NAME: STANGBORAN R.S.127

If you are interested, please call 088-556-9499 or Line ID: VVCOIN https://line.me/ti/p/a0jXr1l1It

คำถาม & คำตอบ

ไม่มีคำถามสำหรับรายการนี้